หลายคนคงรอวันที่จะได้เข้าไปเลือกชม สินค้าแต่งบ้านแบรนด์ IKEA จากสวีเดน ที่จะเปิดตลาดในไทยอย่างเป็นทางการในเดือนพ.ย.นี้

ศูนย์ IKEA สาขาแรกที่จะเปิดในไทย จะเป็นสาขาใหญ่สุดในอาเซียน มีพื้นที่จำหน่ายกว่า 4.3 หมื่นตร.ม. ตั้งอยู่ภายในบริเวณ โครงการเมกา บางนา ถ.บางนา-ตราดกม.9 (ขาเข้า)จุดตัดถ.แหวนฝั่งตะวันออก ซึ่งลงทุนและบริหารโดย บริษัท อิคาโน่ (ประเทศไทย) จำกัด มี "ทอม ฮูเซล" กรรมการผู้จัดการ บริษัท อิคาโน่ จำกัด ผู้ถือลิขสิทธิ์แฟรนไชส์อิเกีย (IKEA) ในสิงคโปร์ มาเลเซีย และไทย เป็นผู้บริหารหลัก
 เมื่อเร็วๆ นี้ IKEA ได้เปิดตัวอาคารคลังสินค้า ซึ่งจะใช้เป็นศูนย์จำหน่ายสินค้าในตัว ตามคอนเซ็ปท์ของอิเกีย 316 สาขาทั่วโลกใน 38 ประเทศ และเป็นส่วนหนึ่งในโมเดลการบริหารต้นทุนด้านสถานที่ ซึ่งมีส่วนทำให้อิเกีย กำหนดราคาสินค้าได้ต่ำกว่าคู่แข่ง และในไทย อิเกีย ประกาศว่าจะส่งสินค้าของแต่งบ้านลงตลาดในราคาต่ำกว่าคู่แข่งไม่น้อยกวา 20%
 "ฮูเซล" ย้ำว่าจุดเด่นของสินค้าอิเกีย มาจาก 3 ปัจจัยหลัก คือ คุณภาพ รูปแบบ และราคาจำหน่ายที่ย่อมเยาว์กว่าคู่แข่ง
 IKEA Concept  คือหัวใจสำคัญของโมเดลธุรกิจอิเกียที่ตอบ 3 โจทย์หลักๆ เรื่อง คุณภาพ-ดีไซน์-และราคา ถ่ายทอดออกมาเป็นประโยคที่คุ้นหูว่า  "You do your part. We do our part. Together we save money."  นั่นคือต่างฝ่ายต่างรับภาระของตน และร่วมกันแบ่งปันเพื่อลดต้นทุน ซึ่งเป็นที่มาของการบริหารจัดการที่ทำให้ อิเกีย สามารถจำหน่ายสินค้าราคาต่ำกว่าคู่แข่ง
 หลักการบริหารของอิเกีย คือเน้นลดรายจ่ายทุกอย่างที่ไม่จำเป็น ไม่เฉพาะในส่วนของอิเกียเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงจุดขายที่ลูกค้าต้องบริการตัวเองด้วย คือ  IKEA self serve area  นั่นคือส่วนพื้นที่จำหน่ายในคลังสินค้า (warehouse) ซึ่งเปิดให้ลูกค้าเข้าไปเลือกซื้อสินค้าได้ด้วยตัวเอง และในขั้นตอนการส่งสินค้า ลูกค้าก็จะรับผิดขอบการขนส่งกลับบ้านด้วยตัวเอง
 มีคำถามตามมาว่า ..บริการที่ลูกค้าที่จัดการเองเช่นนี้ อาจไม่เหมาะกับตลาดเมืองไทย เพราะคนไทยคุ้นเคยกับการซื้อสินค้าที่มีบริการครบวงจร โดยเฉพาะสินค้าชิ้นใหญ่อย่างเฟอร์นิเจอร์ด้วยแล้ว ตลาดในไทยมีธรรมเนียมว่าผู้ขายจะต้องบริการจัดส่งให้ฟรี  เรื่องนี้ผู้บริหารอิเกีย ชี้ว่าก็ต้องมาดูกันต่อไปว่า ราคาสินค้าและรูปแบบที่แตกต่างของสินค้า อิเกีย จะทำให้ผู้บริโภคยอมปรับพฤติกรรมตลาดได้หรือไม่ หากเทียบกับการซื้อของคุณภาพดี แบบสวยงามทันสมัย ในราคาที่ถูกกว่า การขนส่งอาจไม่ใช่ปัญหาใหญ่ก็เป็นได้
 คงต้องมาดูกันว่า เฟอร์นิเจอร์สีสดใส รูปแบบทันสมัย ที่เน้นความเรียบง่าย และตอบสนองคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มคนเมือง แบรนด์ดังจากสวีเดนรายนี้ จะสร้างการยอมรับฉีกธรรมเนียมปฏิบัติเดิมๆ สู่รูปแบบการซื้อเฟอร์นิเจอร์เทรนด์ใหม่แบบ โลว์คอสท์เฟอร์นิเจอร์ ที่ขายเรื่องคุณภาพดี ดีไซน์ ในราคาประหยัด โดยตัดสิ่งอำนวยความสะดวกและบริการบางส่วนออกไปได้หรือไม่

อ้างอิง : http://www.bangkokbiznews.com